จาก Legend สู่ Lenovo เปลี่ยนชื่อแบรนด์เพื่อโกอินเตอร์
เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานี้อย่าง Lenovo ซึ่งได้มีการสำรวจในปี 2017 ว่า เป็นแบรนด์จีนที่คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุดเป็นอันดับ 1 เหนือกว่า Alibaba เสียอีก
สำหรับคนไทยเราก็น่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ Lenovo ในฐานะผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และเครื่อง Labtop ชื่อดัง (ผู้เขียนเองก็ใช้งานอยู่ ใช้ดีมาก)
แต่ถ้าเราพูดถึงชื่อ “Legend” หลายคนอาจจะคุ้น แต่หลายคนจะไม่เคยทราบว่ามีขื่อแบรนด์นี้อยู่มาก่อน
ทราบหรือไม่ว่า Legend คือชื่อเดิมของ Lenovo ซึ่งกว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ได้ ต้องกระท่อนกระแท่นอย่างหนัก บริษัทเกือบจะล้มละลายและปิดตัวมาก็หลายรอบแล้ว เพราะไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้
จุดเริ่มต้นของ Legend อาจจะเรียกว่าเข้าขั้นยาจกและอัตคัตเสียยิ่งกว่าสมัยที่ Steve Jobs เริ่มทำคอมพิวเตอร์จากในโรงรถที่บ้านของตัวเอง เพราะผู้ก่อตั้งคือ หลิวจวงจื้อ (Liu Chuanzi) เริ่มต้นโครงการทำคอมพิวเตอร์ของตนเองจากในห้อง รปภ. ของบริษัททางเหนือของปักกิ่ง โดยเขาคิดระดมทุนได้ราว 35,000 ดอลลาร์ แล้วหาทางแปลงภาษาปฏิบัติการในระบบจากอังกฤษเป็นจีนได้สำเร็จ แล้วจึงได้เริ่มตั้งบริษัทชื่อ Legend
การเริ่มต้นบริษัทเป็นไปอย่างยากลำบาก บริษัทเริ่มต้นจากการขายอุปกรณ์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จากแบรนด์ดังของตะวันตก เช่น IBM และ HP
แต่เอามาขายอย่างเดียว ไม่ใช่วิสัยคนจีน พวกเขาเรียนรู้และศึกษาเทคโนโลยีของตะวันตกที่มีการพัฒนาอัพเดทไปด้วยอย่างจริงจัง
ในที่สุดช่วงทศวรรษ 1990 Legend ก็หันมาผลิตคอมพิวเตอร์ของตัวเองออกขายโดยมุ่งตลาดท้องถิ่นของจีนเป็นหลัก แล้วก็ติดตลาดอย่างรวดเร็ว
ที่จริงแล้ว Legend ก็คิดจะบุกตลาดต่างแดนตั้งแต่ยุค 90 แต่เวลานั้นคุณภาพสินค้าจากจีนยังถูกตราหน้าว่าด้อยคุณภาพ อีกทั้งแผนการของบริษัทคือต้องการปักหลักในประเทศให้ได้ก่อน
กระทั่งในช่วงปี 2004-2005 บริษัทเห็นว่าถึงเวลาที่จะโกอินเตอร์ดูแล้ว หยางหยวนชี่ รับหน้าที่ CEO คนใหม่ ทำการปรับโครงสร้างบริษัท แต่ไหนแต่ไรมา Legend จะให้ความสำคัญกับบุคลากรมาก เพราะถือว่าเป็นทรัพยากรที่ผลิตสินค้าและพัฒนานวัตกรรมให้ เมื่อส่วนนี้มั่นคงขึ้น จึงปรับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Lenovo เพื่อบุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ
ปัจจุบัน Lenovo กลายเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของจีนที่มีคนต่างประเทศรู้จักมากที่สุด และมีส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์สูงถึง 22.4% จากตลาดคอมพิวเตอร์ของทั้งโลก มียอดขายมากกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#