ฟ่านหลี่ เทพแห่งการค้ากับหลักการเรื่องราคา 3 ข้อที่ทำให้จีนเป็นมหาอำนาจ
ชื่อของ ฟ่านหลี่ เป็นที่รู้จักอย่างมากในประวัติศาสตร์จีน เนื่องจากเขาได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการค้าของชนชาติจีนมานานกว่า 2,500 ปี หลักการและแนวคิด 3 ประการเกี่ยวกับการค้าของเขาได้กลายเป็นดั่งคัมภีร์สูงสุดสำหรับพ่อค้าชาวจีน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการกลับไปศึกษาเรื่องของฟ่านหลี่แล้วนำแนวคิดของเขามาประยุกต์ใช้กันแทบจะทุกวงการ
หลักการทั้ง 3 ข้อนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องความต้องการสินค้าและการตั้งราคาสินค้าในสถานการณ์ต่างๆซึ่งจะช่วยให้กิจการได้เปรียบกว่าคนอื่นๆภายใต้สภาพการแข่งขันที่ไม่แน่นอน ซึ่งหลักการที่ว่านี้ได้แก่
1.ถ้าเรารู้ว่าสินค้าใดกำลังขาดแคลนอยู่ในตลาด เราจะสามารถคำนวณได้ว่าสินค้านั้นๆกำลังมีราคาสูงต่ำมากน้อยแค่ไหน
(ซึ่งถ้าเป็นในปัจจุบันหรือตามวิชาเศรษฐศาสตร์ ก็คือสินค้าที่มีอุปสงค์ส่วนเกิน)
2.เมื่อราคาสินค้าสูงขึ้นถึงจุดหนึ่ง ราคาก็จะตกลงมาเองโดยธรรมชาติ
(ฟังดูเหมือนการเก็งราคาช้อนซื้อหรือขายออกในตลาดหุ้นไหมครับ แต่ฟ่านหลี่คิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ 2,500 ปีก่อนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องอาศัยการเอาชนะความโลภ มีเป้าหมายเรื่องมูลค่าสินค้าที่สูงขึ้นชัดเจนว่าควรจะอยู่ที่ระดับไหนแล้วปล่อยขายในจุดที่เหมาะสม)
3.เมื่อราคาสินค้าเริ่มตกลง เราควรเลือกกักตุนสินค้าไว้จำนวนหนึ่งให้เสมือนสมบัติล้ำค่า แล้วเมื่อราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น ควรขายมันออกไปดั่งขยะชิ้นหนึ่ง
(ข้อนี้ฟ่านหลี่ทำสวนทางกับแนวคิดค้าขายของคนจีนในยุคเดียวกันที่พอราคาสินค้าตกลงก็ตื่นกลัวแล้วรีบขายออกเพื่อล้างสต็อก แต่ฟ่านหลี่เห็นว่าในช่วงที่ราคาถูก แสดงว่ามันเป็นที่ต้องการในตลาดมากจนเกินไปและหาได้ง่าย แต่เมื่อมันขาดตลาด มันจะมีมูลค่าสูงขึ้นมาเอง เมื่อถึงตอนนั้นก็ควรขายทิ้งอย่าได้เสียดาย)
แนวคิดของฟ่านหลี่ จะว่าไปก็คือความเข้าใจเรื่องการกำหนดราคาสินค้าโดยอุปสงค์อุปทานตามในวิชาเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ แต่ทุกวันนี้ หลายคนมักทำตรงกันข้ามจากกลไกตลาด รวมถึงนักลงทุนบางกลุ่มที่มักเข้าข่ายว่า ซื้อแพงขายถูก ทำให้ขาดทุนไปมหาศาล ซึ่งฟ่านหลี่เห็นว่า สิ่งสำคัญกว่าราคาสินค้าก็คือ แนวโน้มของราคาในอนาคตนั่นเอง เพราะเมื่อราคาสูงขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งด้วยกลไกตลาดก็จะทำให้มันตกลงมาหรือหยุดนิ่งลง ซึ่งหากเข้าใจข้อนี้ ก็จะช่วยให้ผู้ผลิตสินค้าทราบว่าเวลาไหนที่ควรจะเพิ่มการผลิต หรือเวลาไหนที่ควรจะหยุดหรือชะลอการผลิต ลดการลงทุนและลดความเสี่ยงได้
การได้รู้จักแนวคิดของฟ่านหลี่ก็อาจช่วยให้เข้าใจแนวทางการค้าของคนจีนมากขึ้น และอาจนำมาใช้สำหรับกิจการของทุกท่านได้เช่นกัน
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#