คนหนุ่มสาวจีนฐานะดีที่เรียนในต่างประเทศ กับตลาดใหม่ในระยะยาว
ถือว่าเป็นตลาดสำคัญที่หลายฝ่ายเริ่มหันมาจับตามองมากขึ้น โดยอ้างอิงจากรายงานของ Jingdaily ในเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการรวบรวมสถิติและตัวเลขของนักเรียนและนักศึกษาชาวจีนในต่างแดน ซึ่งกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำหรับตลาดสินค้าแบรนด์เนมหรือสินค้ากลุ่ม Luxury ที่มาแรงและน่าจับตามองในระยะยาวอย่างมาก
ในรายงานอ้างอิงถึงการสำรวจที่มีมาว่า ในมหานครนิวยอร์คและเมืองบอสตัน มีนักศึกษาจีนเป็นจำนวนมากที่สุดร้อยละ 31 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่จับจ่ายซื้อสินค้าในกลุ่มราคาแพงและกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม ไม่เพียงเท่านั้นกลุ่มนี้ยังมีพลังในการเชิญชวนแบบ “ปากต่อปาก” ในการแนะนำสินค้าเหล่านี้ให้เพื่อนฝูงหรือครอบครัว ไปจนถึงการแชร์และรีวิวสินค้าลงในโซเชียล ซึ่งเป็นการทำตลาดอย่างเป็นธรรมชาติ ซ้ำยังมีประสิทธิภาพในการโฆษณาสินค้าให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ยังมีการสำรวจว่า ภายในเวลาเพียง 3 เดือน มากกว่าร้อยละ 34 ของนักศึกษาจีนกลุ่มนี้ต่างก็จับจ่ายซื้อสินค้าราคาแพงกลับประเทศกันบ่อยครั้ง
สาเหตุที่คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นลูกหลานจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย พวกเขามักเป็นลูกหลานของครอบครัวจีนรุ่นที่ 2-3 ส่วนใหญ่เกิดและเติบโตจากยุค 80-90 และมาจากครอบครัวนักธุรกิจหรือนักการเมืองของจีน ซึ่งเรียกกันว่า “ฟู่เอ้อไต้”
พวกเขาจะมีรสนิยมแต่งตัวหรือใช้สินค้าแบรนด์เนมกันในไฮสคูลและในมหาวิทยาลัย ยกเว้นบางส่วนที่มาจากนักเรียนที่ได้ทุน อย่างไรก็ตาม หากมองถึงการลงทุนในระยะยาว คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นกำลังหลักทางเศรษฐกิจของจีนในอนาคต และจะมีความเป็น Brand Loyalty สำหรับสินค้าบางประเภทในระดับสูงด้วย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้เริ่มกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยนโยบายของรัฐบาลจีนที่เริ่มการจับกลุ่มทายาทของตระกูลและครอบครัวผู้มีฐานะไปเข้ารับการอบรม หรือการกวาดล้างการคอรัปชั่นในรัฐบาลจีน ซึ่งทำให้การจับจ่ายใช้เงินของกลุ่มทายาทเหล่านี้ถูกจำกัดและระวังตัวมากขึ้น ถึงอย่างนั้น เมื่อต้องออกไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ก็เป็นโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ใช้จ่ายกันอย่างเต็มที่ไปด้วย
การจับตลาดกลุ่ม “ฟู่เอ้อไต้” จึงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจและผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกสินค้าหรูหราราคาแพงต้องทำการศึกษา ซึ่งหากสามารถทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่าเป็นสินค้าที่ตอบสนองต่อกระแสหรือทำให้พวกเขาดูมีรสนิยม ก็จะทำให้เกิดกระแสการบอกแบบปากต่อปากและในโซเชียลได้ด้วยนั่นเอง
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#