ฮ่องกง ชนะ นิวยอร์ก เป็นมหานครที่มีเศรษฐีอยู่มากที่สุด
ฮ่องกง แซงหน้าชนะ นิวยอร์ก ขึ้นเป็นเมืองที่มีมหาเศรษฐีอยู่มากที่สุด ตามรายงานของ Business insider, Wealth-X และ South China Morning
ก่อนหน้านี้ ทางสำนักข่าว South China Morning ยังได้อ้างอิงจากรายงานของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้ประเมินและคาดการณ์ถึง 5 อันดับของเมืองที่จะมีอัตรา GDP สูงสุดในโลก ภายในปี 2020 หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นเมืองที่มีค่าเฉลี่ยของความร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งผลปรากฏว่า ใน 5 อันดับแรก ฮ่องกงผงาดขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 แต่ที่น่าตกใจคือ ตามการประเมินและคาดการณ์นั้นกลับไม่มีมหานครนิวยอร์กติดอยู่ใน TOP 5 อันดับแรก (แต่ก็ต้องรอดูข้อมูลจริงในอีก 2 ปีข้างหน้า)
เนื่องจากประเด็นนี้น่าสนใจ ทางเพจจึงได้รวบรวมข้อมูลมาสรุปเป็นแต่ละประเด็น ดังนี้ครับ
ฮ่องกงแซงหน้านิวยอร์ก มีมหาเศรษฐีอาศัยอยู่มากที่สุด
ตามรายงานของ Wealth-X ระบุอย่างเป็นทางการว่า ฮ่องกงมีจำนวนของกลุ่มอภิมหาเศรษฐี หรือระดับ Ultra-Rich ที่มีมูลค่าทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ อาศัยอยู่เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 31%
ซึ่งคนกลุ่มนี้ อาศัยอยู่ในฮ่องกงประมาณ 10,000 คน ในขณะที่นิวยอร์กมีกลุ่มมหาเศรษฐีดังกล่าวอาศัยอยู่ราว 9,000 คน
เมืองใหญ่ของสหรัฐติดอันดับแค่ ลอสแอนเจลิส
จากอันดับที่เปิดเผยมา มีกรุงโตเกียว ลอสแองเจลิส ลอนดอน และปารีส ติดใน TOP 10 อันดับแรกของเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุด
ซึ่งปรากฏว่าไม่มีเมืองใหญ่ของสหรัฐติดอันดับอีกเลย นอกเหนือจากลอสแองเจลิสเท่านั้น
มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้น ทำลายสถิติ
แต่ไหนแต่ไรมา ฮ่องกงได้ชื่อว่ามีอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เพราะพื้นที่ของฮ่องกงค่อนข้างเล็ก มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เมื่อเปรียบเทียบกับการขยายของเมือง การซื้อที่ดินหรือบรรดาอสังหาฯในฮ่องกงจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งมีกลุ่มมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ 30-100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อมูลค่าของอสังหาฯด้วย
ล่าสุดในปลายปี 2017 มูลค่าอสังหาฯในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้น จนได้ทำลายสถิติการขายอพาร์ทเมนต์ที่แพงที่สุดในโลกแล้ว โดยมียอดขายรวมกันอยู่ที่ 149 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า แค่แมนชั่นหรูของแจ็คหม่า ที่อยู่ในฮ่องกงเพียงคนเดียว ก็มีมูลค่าเกินกว่า 191 ล้านเหรียญเข้าไปแล้ว
อัตราส่วนมหาเศรษฐีอยู่ที่ 1 ใน 7 คน
รายงานระบุว่า ผลกระทบที่มาจากการเพิ่มขึ้นของมหาเศรษฐีในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้การสำรวจข้อมูลในปลายปี 2017 พบว่าคนฮ่องกงใน 7 คน จะมีมหาเศรษฐีอยู่ 1 คน
ค่าจอดรถส่วนบุคคลพุ่งสูงสุด
จากในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่าค่าที่จอดรถส่วนบุคคลในฮ่องกงมีมูลค่าอยู่ที่ 430,000 เหรียญสหรัฐฯ และหากมีการขาย ก็จะมีราคาพุ่งขึ้นเกือบสองเท่า
โดยสรุปแล้ว
การเพิ่มขึ้นของมหาเศรษฐีในฮ่องกงก็ใช่ว่าจะมีแต่ด้านบวก เพราะในด้านอันตรายก็ทำให้ฮ่องกงมีการพุ่งตัวอย่างสูงของราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้การพัฒนาโครงการอสังหาฯทำได้ยากลำบากสำหรับนักลงทุนไปด้วย
======================================================
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ