จีนแก้ปัญหาความยากจน ด้วยการทำตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงชนบทและเกษตรกร
ก่อนหน้านี้ ยุทธ์ศาสตร์แก้ปัญหาและลดความยากจนของจีนได้ผ่านครึ่งทางแล้ว ซึ่งก็กล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย จากที่ก่อนหน้านี้จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนยากจนและมีความเหลื่อมล้ำสูงติดอันดับโลก
สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า นายหยูเจี้ยนหวา ผู้แทนจีนประจำสำนักงานในเจนีวาของสหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆในสวิตเซอร์แลนด์ได้กล่าวว่า จีนวางแผนที่จะสนับสนุนทางด้านทรัพยากรในด้านต่างๆเพื่อส่งเสริมภารกิจสำคัญในการลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก
ซึ่งในระหว่างการประชุมครั้งที่ 39 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประเทศจีนและแอฟริกาใต้ได้ร่วมกันจัดการประชุมภายใต้ตัวข้อ "ขจัดความยากจนและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนทั้งหมดซึ่งรวมทั้งสิทธิในการพัฒนา" ที่ปาแลเดนาซียง เมืองเจนีวา ในงานนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการทูตจากสหภาพยุโรป และอื่นๆรวมแล้วกว่า 30 ประเทศ เช่น รัสเซีย เยอรมนี ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา รวมถึงผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ นักวิชาการทั้งของจีนและต่างชาติรวมแล้วมากกว่า 80 คนเข้าที่ร่วมการประชุมในครั้งนี้
นายหยู เจี้ยนหวา ได้กล่าวว่า จีนยึดมั่นในสิทธิของประชาชนในการใช้ชีวิตและการพัฒนาตนเอง ไปจนถึงความพยายามที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วกัน ซึ่งการลดความยากจนถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆในการพัฒนาประเทศของจีนมาหลายทศวรรษ ซึ่งทางจีนตั้งเป้าหมายที่จะทำให้สำเร็จภายในปี 2020 รวมถึงการยกระดับคุณภาพประชากรจีนในเขตชนบทให้พ้นจากความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้ได้
ทั้งนี้ ตามแผนงานที่วางไว้เมื่อการประชุมสมัชชาในปี 2015 จีนได้ตั้งเป้าว่า ภายใน 6 ปีจนถึงปี 2020 จีนจะลดจำนวนคนจนลงเดือนละ 1 ล้านคน ซึ่งในเวลานั้น จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนยากจนติดอันดับโลก อยู่ที่ประมาณ 70 ล้านคน
เว็บไซต์ Taobao มีส่วนช่วยกระจายสินค้าจากชนบทและ SME รายย่อยของจีน
สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญที่วางไว้ คือการนำกลยุทธ์ การทำตลาดออนไลน์ ให้เข้าถึงชนบท เนื่องจากเป็นยุทธวิธีที่มีความเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ทำให้สามารถกระจายสินค้าจากภาคการเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนจีนให้เข้าถึงชนบททั่วประเทศ
ซึ่งในเวลานี้ หลังจากแผนงานผ่านมาครึ่งทาง ดูเหมือนว่าการทำตลาดออนไลน์ และการใช้ QR Code สำหรับสแกนการซื้อขายสินค้าจากผู้ผลิตและเจ้าของกิจการรายย่อยและกลุ่มเกษตรกร ก็ได้เข้าถึงชนบทจีนมากขึ้น โดยมีการใช้แอพสำคัญอย่างเช่น Alipay และ WeChat ที่ช่วยให้การขายและกระจายสินค้าการเกษตรจากชนบทได้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
แล้วยังมีรายงานเพิ่มเติมจาก Statista ระบุว่า สิ้นปี 2017 ที่ผ่านมาว่า จำนวนของชาวจีนที่ทำธุรกิจหรือค้าขายผ่านทาง E-Commerce โดยตรง มีมากกว่า 3.3 ล้านคน และเป็นลูกจ้างหรือพนักงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 25 ล้านคน
ทั้งนี้ มีรายงานของจีนบางส่วนที่ประกาศออกมาว่า จีนประสบความสำเร็จในการลดความเหลื่อมล้ำและความยากจนได้ผลลัพธ์ดีที่สุดในโลก แม้ว่าหลายฝ่ายจะวิจารณ์ว่า เป็นการรายงานที่โน้มเอียงเข้าข้างจีนเองมากเกินไปก็ตาม ก็คงต้องรอดูผลลัพธ์ต่อไปว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายแค่ไหน
=======================================================
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ