จีนดูญี่ปุ่นยุคหลังฟองสบู่เป็นบทเรียน กรณีอสังหาฯราคาพุ่ง
รายงานจากฝั่งญี่ปุ่น เช่น Asian Nikkei กำลังวิเคราะห์เกี่ยวกับความพยายามในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของจีน ที่มีการศึกษาบทเรียนในกรณีปัญหามูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งทะลุไว้เป็นบทเรียน หรือเรียกง่ายๆว่า ดูญี่ปุ่นยุคหลังฟองสบู่ไว้ศึกษานั่นเอง
สำหรับปัญหาเรื่องมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นพุ่งทะยานนั้น จีนเองก็ได้ศึกษาอยู่ หลังจากปัญหาฟองสบู่แตกด้านอสังหาฯของญี่ปุ่นแล้ว ทางจีนเองก็พบว่าหากไม่ทำอะไรสักอย่าง พวกเขาก็อาจจะเผชิญวิกฤตแบบเดียวกับญี่ปุ่นก็ได้
ก่อนหน้านี้ ปัญหาเรื่องฟองสบู่แตกทางอสังหาฯ ไม่ได้อยู่ในรายการปัญหาของจีนเหมือนกับปัญหาเรื่องปากท้อง การลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ปัญหาเรื่องการศึกษา และปัญหาระเบียบทางสังคม
แต่หลังจากกรณีฟองสบู่แตกของญี่ปุ่น ก็ทำให้จีนไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีก
ญี่ปุ่นเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ในวันนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหนี้สาธารณะ ที่ส่งผลมาจากนโยบายการเงินและการคลังที่ต้องการกระตุ้นการเติบโตในภาคเศรษฐกิจ แต่กลับกลายเป็นว่าเวลานี้ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะมากกว่า 200% ของ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ขณะที่หนี้จีนอยู่ที่ราว 260% ของจีดีพี เพิ่มจาก 140% ก่อนวิกฤตการเงินโลกปี 2008
ขณะที่ญี่ปุ่น ในช่วงทศวรรษ 1980 ใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อหวังจะเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ แต่แล้วการที่นักลงทุนและคนทั่วไปแห่ซื้อที่ดินและอสังหาฯในประเทศ ก็ส่งผลให้ราคาพุ่งทะยานขึ้นหลายเท่าตัว จนกระทั่งดีชะนี Nikkei ในตลาดโตเกียวพุ่งขึ้นไประดับ 40,000 ในปี 1989 ซึ่งหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ต้องแก้ปัญหาด้วยการออกนโยบายควบคุมเข้มงวดอย่างกะทันหัน ทำให้ราคาหุ้นและราคาอสังหาฯดิ่งลงทันที ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของประเทศ ก่อหนี้เสียจำนวนมาก นำไปสู่ช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจตกต่ำจนถึงระดับหยุดนิ่ง
เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่สำหรับญี่ปุ่นเท่านั้น แต่รวมถึงจีนเองด้วย
ในปัจจุบัน มูลค่าอสังหาฯของจีน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่นเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง มีราคาพุ่งขึ้นสูงมาก แม้ว่าจีนจะประสบความสำเร็จสูงสุดในการลดความเหลื่อมล้ำของคนยากจนในประเทศ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมของจีนก็เริ่มเข้าสู่ช่วงชะลอตัว ทั้งนี้ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เผชิญหน้ากับวิกฤติแบบเดียวกับญี่ปุ่น ทางการจีนจึงได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ความสำคัญกับภาคเอกชนอย่างมาก ตามคำมั่นของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จากเมื่องานนำแสดงสินค้า EXPO ที่ผ่านมา
ทั้งนี้คงต้องรอดูมาตรการต่างๆของจีนที่กำลังทยอยออกมาว่า จะช่วยแก้ปัญหาและลดความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เกี่ยวพันกับภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทยโดยตรง
==================================================
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ