อย่าฝืนขยายธุรกิจ บทเรียนจาก “ซานเซี่ยว” แบรนด์แปรงสีฟันอันดับต้น ๆ ของจีน
อย่าฝืนขยายธุรกิจเกินไป จากบทเรียนการเติบโตของซานเซี่ยว แบรนด์แปรงสีฟันอันดับต้นๆของจีน
จริงอยู่ว่า การทำธุรกิจ บางครั้งไม่มีคำว่ารอให้เตรียมพร้อม เพราะถ้ามัวแต่รอความพร้อม อาจจะไม่สามารถดำเนินการธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งในประเทศจีน ก็มีตัวอย่างของการปั้นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ โดยเริ่มจากธุรกิจท้องถิ่นที่ทำกันเองในครัวเรือน แล้วเมื่อถึงเวลาที่ต้องขยาย พวกเขาก็ไม่ฝืนที่จะลงทุนทั้งระบบมากเกินไป แต่เลือกลงทุนเฉพาะเรื่องที่จำเป็นต่อผลิตภัณฑ์ก่อน
“ซานเซี่ยว” ปัจจุบันถือว่าเป็นแบรนด์แปรงสีฟันอันดับหนึ่งของจีน จุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจในครัวเรือน ซึ่งเริ่มต้นโดยห้าพี่น้องแห่งสกุลหาน พวกเขาเป็นชาวหมู่บ้านหังจี๋ เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู
แต่เดิมคนในหมู่บ้านนี้เริ่มสร้างธุรกิจแปรงสีฟันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงด้วยการใช้กระดูกหมูนำมาเหลาเป็นด้าม แล้วใช้ขนหมูเป็นขนแปรง เป็นรูปแบบการผลิตในครัวเรืออย่างง่ายๆ ซึ่งก็เป็นกิจการที่สามารถสร้างฐานะและเลี้ยงดูครอบครัวไปจนถึงชาวบ้านได้เป็นอย่างดีด้วย
ต่อมาในปลายยุค 80 ถึงต้นยุค 90 รัฐบาลแห่งพรรคคคอมมิวนิสต์จีนได้ศึกษาธุรกิจของแต่ละท้องถิ่น แล้วก็ได้สนับสนุนให้หมู่บ้านหังจี๋นก็ได้กลับมาทำอาชีพผลิตแปรงสีฟันขายแล้วส่งไปขายยังมณฑลอื่นด้วย
แต่ในเวลานั้น ห้าพี่น้องสกุลหานซึ่งเริ่มทำกิจการนี้มีความเห็นว่าการผลิตของพวกเขามีข้อจำกัด อีกทั้งในประเทศก็มีผู้ผลิตจำนวนมาก เป็นการยากที่พวกเขาจะเข้าแข่งขันหรือแย่งส่วนแบ่งในตลาดได้
พวกเขาจึงคิดแผนธุรกิจเพื่อที่จะขยายโอกาส พวกเขาไปนิทรรศกาลเกษตรกรรมที่กรุงปักกิ่ง ในงานนั้นมีการนำเครื่องจักรผลิตแปรงสีฟันจากเยอรมันเข้ามาแสดง พวกเขาจึงพบว่าการผลิตโดยเครื่องจักรนำเข้าจะทำให้ได้แปรงสีฟันคุณภาพดี เนื่องจากแปรงสีฟันจีนในเวลานั้นมีจุดอ่อนสำคัญสองเรื่องคือ ขนแปรงหลุดง่าย และหน้าตัดแปรงสีฟันไม่เรียบ
แต่ก็ต้องลงทุนสูง พวกเขาไม่ได้มีเงินทุนมากนัก อีกทั้งการนำเข้าเครื่องจักรมาทั้งกระบวนการก็ไม่คุ้มทุนเท่าไร จึงได้วิเคราะห์แล้วเห็นว่า เอาเท่าที่พอใช้ก็พอ เนื่องจากการผลิตส่วนอื่นๆยังใช้คนได้ แต่ในสองขั้นตอนสุดท้าย ต้องใช้เครื่องจักร จึงนำเข้าเครื่องจักรเพื่อใช้ในสองขั้นตอนสุดท้ายก็พอ
หลังจากนั้น แปรงสีฟันห้ายี่ห้อซานเซี่ยวจึงมีการผลิตที่มากขึ้นหลายสิบเท่า แล้วพวกเขาก็เริ่มกระจายสินค้าออกขายไปทั่วมณฑล แล้วเริ่มกระจายขายไปทั่วประเทศ ต่อมาเมื่อการตลาดแบบ E-Commerce เริ่มได้รับความนิยม พวกเขาก็ไม่รอช้า นำสินค้าเข้าสู่การขายกับ Alibaba ไม่ยอมที่จะตกขบวน
อาจกล่าวได้ว่า การให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าและการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์ แต่ก็ไม่ได้ลงทุนในเรื่องที่ไม่จำเป็นเกินตัวไปในเวลานั้น แต่มุ่งพัฒนาในสิ่งที่จำเป็น ก็มีส่วนช่วยให้แบรนด์ของพวกเขาเติบโตขึ้นจนกระทั่งก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ของแปรงสีฟันในประเทศจีนจนสำเร็จ
===========================================
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ