จีนดันตลาดออนไลน์ ช่วยแก้ปัญหายากจน

จีนดันตลาดออนไลน์ ช่วยแก้ปัญหายากจน แล้วจะไปต่อยังไงหลังจากวิกฤตไวรัสโควิด-19
แม้ว่าช่วงนี้จีนกำลังเจอกับวิกฤตหนักจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่แนวทางการ “ทำสงครามแก้จนของจีน” ก็ยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของประเทศ ที่ก็จะนำกลับมาเดินหน้าต่อหลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
สำหรับรัฐบาลจีน การเข้ามาผลักดันให้ประชาชนมีความรู้และความเข้าใจ ในการใช้งานแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ “ที่เป็นมากกว่าแค่ช่องทางออนไลน์” เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่น่าจับตามอง
ตัวอย่างเช่น การใช้แพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียหลัก ไม่ว่าจะเป็น อีคอมเมิร์ซ ผสมผสานกับ โซเชียลมีเดีย

อีคอมเมิร์ซ และ E-Wallet
· Taobao
· Tmall
· Alipay
· Xiaohongshu
· JD.com
· Kaola
· ฯลฯ

โซเชียลมีเดีย และบริการอื่นๆ
· Baidu
· Tik Tok
· Kwai
· Dianping
· Zhihu
· ฯลฯ
อันที่จริงแล้ว การแยกประเภทของแพลทฟอร์มก็อาจจะไม่ได้เป็นตามนี้ทั้งหมด เพราะแพลทฟอร์มของจีนในเวลานี้กำลังมีการนำมาผนวกใช้งานแบบผสมผสาน เชื่อมโยงกันหมด การใช้เพียงช่องทางเดียวจึงอาจจะไม่ตอบโจทย์ตลาดเท่าไรนัก

สำหรับยุทธศาสตร์ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเคยออกมาตั้งนโยบายและกำหนดยุทธ์ศาสตร์ที่ว่าด้วยการใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความยากจนและปากท้องของคนจีนให้หมดไป เรียกว่า การทำสงครามปราบความยากจน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2015และตามเป้าหมายคือจะทำให้คนจนลดลงปีละ 1 ล้านคน โดยเมื่อถึงปี 2020 จะช่วยให้คนจนลดลงราว 5 ล้านคน และจะขยายยุทธ์ศาสตร์ออกไปอีก
ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานจาก Chinadaily ที่ชี้ว่า ในปี 2019 ที่ผ่านมา พบการสำรวจเบื้องต้นว่า ประชากรจีนที่เข้าข่ายฐานะยากจน รายได้ร้อย มีจำนวลดลงถึงเดือนละ 1 ล้านคน และหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าภายในปีหน้าก็จะตั้งเป้าที่ตัวเลขลดลงอีก 1 ล้านคน ซึงในกลุ่มที่ว่ามา มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และมีความเป็นอยู่กับถิ่นฐานที่ดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ การว่างงานที่ลดลงในภาพรวมด้วย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสิ่งที่จีนให้ความสำคัญมากกว่าแค่ “การแจกเงิน” คือการช่วยให้คนจีนทำงานและหาเงินได้เก่งขึ้น เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนที่จะต้องใช้ชีวิตและพัฒนาตนเองควบคู่กันไปด้วย โดยใช้ช่องทางที่มีทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับ เป้าหมายเดิมคาดว่าจะพยายามจะทำให้สำเร็จภายในปี 2020 แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่องไวรัสโควิด อาจจะส่งผลกระทบให้ต้องขยายกรอบออกไปอีก
สำหรับคนไทย เป็นกรณีศึกษาที่ดี ในการมองหา ช่องทางอีคอมเมิร์ซและอื่นๆ มาผสมผสานกันเพื่อนำไปสู่การใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเพิ่มโอกาสทางรายได้
=========================================
#คิดถึงการตลาดจีน#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
Comments