เด็กจบใหม่ในไทยเตรียมเตะฝุ่นเกิน 2 ล้านคน และอาจไม่มีงานทำทั่วโลก
คนไทยอาจตกงานมากสุดในรอบ 11 ปี โดยเฉพาะเด็กจบใหม่คาดว่าเกิน 2 ล้านคน และในต่างประเทศเตรียมเตะฝุ่นกันทั่วโลก
มีรายงานออกมาว่า ทางศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้คาดการณ์ถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ว่าส่งผลทำให้แรงงานไทยกำลังตกงานเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีแรงงานที่ตกงานและต้องหยุดงานชั่วคราวรวมแล้วมากกว่า 2.5 ล้านคน ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งก็ถือว่าจะเป็นสถิตแรงงานที่ต้องตกงานสูงสุดในรอบ 11 ปีของไทย และเป็นตัวเลขมากที่สุดด้วย
วิกฤตการณ์นี้ อาจจะร้ายแรงกว่าสมัย “ต้มยำกุ้ง” ปี 40 ซึ่งสาเหตุก็มาจากหลายด้าน โดยตัวเลขของอัตราว่างงานจากแรงงานในระบบประกันสังคมยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยภายในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีอัตราว่างงานมากถึง 3.9% เพิ่มขึ้นจากในสองเดือนก่อนหน้านี้ที่ 2.8% และ 3.7%
สัญญาณดังกล่าวหมายความว่า แรงงานในระบบมีสิทธิตกงานหรือถูกเลิกจ้าง ทำให้พวกเขาอาจจะต้องย้ายไปเป็นแรงงานนอกระบบมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้อาจมีรายได้น้อยลง รวมถึงอาจจะได้รับสวัสดิการที่ครอบคลุมน้อยลงกว่าตอนอยู่ในระบบ หรือแย่สุดคือ อาจจะไม่มีสวัสดิการเลยก็ได้
แล้วยิ่งกว่านั้นคือ “ขีดจำกัด” ทางด้านวุฒิการศึกษา หรือทักษะแรงงานที่มีของแรงงานส่วนใหญ่ที่อาจจะไม่สามารถหางานหรือรายได้มากพอเพื่อจุนเจือครอบครัว ก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากที่ส่งผลกระทบ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูก แล้วต้องการหารายได้เพื่อส่งค่าเทอมให้ลูกได้เข้าเรียน ก็อาจจะส่งผลให้เด็กหลายคนต้องออกจากสถานศึกษาเพื่อมาหาทางช่วยครอบครัวลดรายจ่าย หารายได้เพิ่ม อาจจะทำให้เด็กส่วนมากเสียโอกาสทางการศึกษาไปอีก กลายเป็นผลกระทบลูกโซ่ที่น่ากลัว
ที่สำคัญคือ บรรดาแรงงานที่อยู่ระหว่างวัยเรียน อายุน้อย หรือเพิ่งจบการศึกษา ตั้งแต่อายุ ประมาณ15-24 ปี คือกลุ่มที่จะเจอปัญหา “เตะฝุ่น” มากที่สุดตั้งแต่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ ยิ่งมาเจอกับโควิด-19 ที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวและการบริการ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่หารายได้เข้าประเทศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ก็จะส่งผลกระทบทำให้แรงงานอายุน้อยและเด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ เจอปัญหาว่างงานครั้งร้ายแรงที่สุด
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า อัตราการว่างงานของกลุ่มแรงงานอายุน้อย ได้มีอัตราเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 8.6% ต่อกำลังแรงงานอายุน้อยทั้งหมดในไตรมาส 2 ของปี 2563 และก็เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องไปที่ระดับ 9.8% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในต่างประเทศเองก็กำลังเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่อัตราการว่างวานของเด็กจบใหม่อยู่ที่ 25% ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มสูงจากเดิมกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้
ในช่วงนี้ จึงควรระวังเรื่องการลงทุนต่างๆ และทุกคนควรมองหาโอกาสอื่นๆ รวมถึงการพัฒนาทักษะ และเรียนรู้ช่องทางที่จะทำการตลาดผ่านออนไลน์ให้เป็นประโยชน์มากขึ้นครับ
=================================
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
หรือติดต่อสอบถามได้ในเพจ
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
Opmerkingen